ดูตามประกาศกระทรวงฯ เลยนะครับ สาระสำคัญอยู่ 4 ข้อ เริ่มจาก
ข้อ 1 เนื้อหาดูในประกาศเองเลยครับ
แปลได้ว่า ให้ยกเลิกข้อความในประกาศฯไปทั้งหมด 33 ฉบับ ตามบัญชีหมายเลข 1 ที่แนบมากับประกาศนี้ ขยายความได้ว่า ตามบัญชีหมายเลข 1 จะครอบคลุมอาหารอยู่ประมาณ 33 ประเภท แยกเป็นประกาศฉบับๆไปตั้งแต่ 61 ไปถึง 289 ในประกาศแต่ละฉบับจะมี ขอ้ความว่า ประมาณว่า "ไม่มีจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค" ก็ให้ยกเลิกไป แล้วแก้เป็น "ไม่มีจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค เว้นแต่ จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ตามบัญชีหมายเลข 2 ....." ขยายความได้ว่า ถ้าผลิตภัณฑ์เราเคยอยู่ในประกาศ 33 ฉบับตามบัญชีหมายเลข 1 ถ้าจะวิเคราะห์เชื้อจุลินทรีย์ตามประกาศฯนี้ จะต้องกำหนด Spec ตาม บัญชีหมายเลข 2
แต่จะเห็นว่า บัญชีหมายเลข 2 มีอาหารอยู่ 18 ประเภท อ้าวและอีกประมาณ 15 ประเภท ทำไงล่ะ คำตอบคือ ก็ให้ตรวจตาม บัญชีหมายเลข 2 ข้อ 19 อาหารตามบัญชีหมายเลข 1 นอกเหนือจากที่ระบุข้างต้น (1-18) คือวิเคราะห์แค่ Stap กับ Samonella เท่านั้น เช่น อาหารประเภท น้ำมันเนย ชาสมุนไพร ประมาณนี้ ลองไล่ๆดู ถ้าผลิตภัณฑ์เราไม่เข้าข่ายข้อ 1-18 ก็ตรวจตามข้อ 19 พอแล้ว
ข้อ 2 เนื้อหาดูในประกาศเองเลยครับ
แปลได้ว่า ถ้าเราตรวจดูแล้ว ผลิตภัณฑ์เราไม่อยู่ในบัญชี หมายเลข 1 (ไม่ได้อยู่ในประกาศ 33 ฉบับ ตามข้อ 1) ลองไปไล่ดูในบัญชีหมายเลข 3 ดิว่าอยู่ในข่ายมั๊ย ถ้าอยู่ก็ตรวจตามนั้น ถ้าตรวจทุกบัญชีแล้วไม่พบว่าเข้าข่ายอันไหนเลย แล้วจะตรวจยังไงละที่นี้ หรือว่าไม่ต้องตรวจ อะเดี่ยวก่อนประกาศบอกว่า "ต้องไม่มีจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค" แปลง่ายๆ คือ ต้องตรวจด้วย แต่จะตรวจอะไรก็ให้คิดเอาเอง เช่น Salmonella กับ Stap. น่าจะตรวจแน่ๆ หากเป็นพวกของหมักดอง อาจจะต้องตรวจ Crostidium ด้วย ตามแต่ความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์และกระบวนการนั้น แต่ผลการตรวจต้องระบุว่า Negative กับ Positive เท่านั้น จะบอกว่า พบ 100 cfu/g ไม่ได้
ข้อ 3 เนื้อหาดูในประกาศเองเลยครับ
แปลได้ว่า ให้เราตรวจตามวิธีที่แนบมาตามบัญชีหมายเลข 4 เท่านั้น แต่เปิดช่องไว้ว่า ตรวจวิธีื่ไหนๆก็ได้แต่ต้องทำ Method validation นะว่าวิธีที่เราใช้ถูกต้องจริง เอาง่ายไม่ปวดหัวก็ตรวจตามที่เค้าแนะนำไว้แหละครับ
ข้อ 4 เนื้อหาดูในประกาศเองเลยครับ
อาหารที่มีประกาศอื่นๆรองรับอยู่และมีการกำหนดมาตรฐาน จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ไว้แล้วก็ให้ตรวจตามนั้นไป