ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com
ให้กำลังใจ ชาวอยุธยาและใกล้เคียงค่ะ กับสถานการณ์น้ำท่วม
#61
Posted 11 October 2011 - 07:57 PM
หลายบริษัทเริ่มสั่งหยุดทำงานแล้วครับ
เนื่องจากฝนตกทุกวันทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆครับ
#62
Posted 11 October 2011 - 08:00 PM
อย่าตกใจ กทม.จมแน่
สิ่งของจำเป็นที่ควรมีใน "ถุงยังชีพ" ประกอบด้วย (เราอาจเตรียมไว้เองซึ่งถ้าเกิดน้ำท่วมฉับพลันแล้วรอความช่วยเหลือจากราชการคงจะไม่ท
ันการณ์ครับ)
1. อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง พร้อมที่เปิดกระป๋อง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ผักกาดดองกระป๋อง ปลาราดพริก น้ำพริกกระปุก เนื้อเค็ม ไข่เค็ม หมูหยอง หมูแผ่น ฯลฯ ในปริมาณที่เพียงพอต่อการบริโภคไม่น้อยกว่า 3 วัน
2. ข้าวหอมมะลิกระป๋อง และข้าวสาร หรือหากเดินทางไปแจกด้วยตนเอง อาจซื้อข้าวเหนียวนึ่งกับเนื้อหรือหมูทอดใส่ถุงเพราะไม่บูดง่าย
3. น้ำดื่ม เครื่องดื่มแพ็คกล่อง และขนมปังกรอบ ขนมถุงต่าง ๆ ที่เด็กชอบ นมถั่วเหลืองและน้ำผลไม้ สำหรับถวายพระฉันหลังเพล
4. นมผง และขวดนมสำหรับเด็กเล็ก พร้อมด้วยกระติกน้ำร้อนขนาดเล็ก ชนิดเสียบไฟได้
5. กระบอกไฟฉายพร้อมถ่าน ควรมีถ่านสำรองด้วยหลาย ๆ ชุด เทียนไข และไฟแช็ค
6. ชุดปฐมพยาบาล และยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้น้ำกัดเท้า ยาทาแผลสด ยาดม ยาหม่อง ยาแก้ไข้แก้หวัด ยาแก้ไอ เจ็บคอ เกลือแร่ซอง ยาแก้ท้องเสีย โลชั่นกันยุง ยาแก้คัน และยารักษาเชื้อรา-น้ำกัดเท้า
7. กระดาษทิชชู และกระดาษชำระแบบเปียก ใช้สำหรับการชำระล้างเพื่อสุขอนามัย
8. ถุงดำสำหรับใส่ขยะ พร้อมเชือกฟางหรือหนังยาง สำหรับมัดปากถุง
9. ผ้าอนามัย และยาคุมสำหรับผู้หญิง ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กเล็กและคนแก่ กระโถน ถุงก๊อบแก๊บพร้อมที่นั่งถ่ายแบบของคนป่วย
10. เสื้อชูชีพ จำเป็นมากสำหรับคนแก่ คนป่วย และเด็ก ที่ควรมีไว้ประจำตัว
11. รองเท้าแตะยาง เสื้อกันฝน หมวกกันแดด ร่ม เสื้อยืด สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าขาวม้า ผ้าถุง กางเกงในกระดาษ หน้ากากกันฝุ่น
12. นกหวีด เพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
13. เชือกไนลอนเส้นยาว ๆ สำหรับผูกของ ตากผ้า ฯลฯ
14. กระจกเล็ก ๆ เอาไว้สะท้อนแสงขอความช่วยเหลือ
15. แผ่นพลาสติกและเทปกาว เพื่อใช้ในการทำที่หลบภัยภายในที่พัก
สงสัยจะมีโอกาศได้นำไปใช้แล้วล่ะคราวนี้
#63
Posted 11 October 2011 - 09:50 PM
งานเข้าล่ะงานนี้
#64
Posted 11 October 2011 - 09:54 PM
#65
Posted 12 October 2011 - 10:57 AM
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
#66
Posted 12 October 2011 - 11:24 AM
มนอพยพ พาลูกหนีน้ำแล้วค่ะ ที่บ้านท่วมสูงแล้วค่ะ
หนีน้ำมากรุงเทพฯ ไม่รู้จะหนีเสือปะ จรเข้แล้วหรือเปล่า?
ขอบคุณบริษัท ที่ที่ไม่คิดเป็นเป็นวันลา สำหรับผู้ประสบอุทกภัย
*** ไม่เชื่ออย่าลบลู่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ กำลังเล่นงาน คนบางคน อยู่หรือเปล่า???????????????
#67
Posted 12 October 2011 - 11:29 AM
#68
Posted 12 October 2011 - 11:34 AM
มนอพยพ พาลูกหนีน้ำแล้วค่ะ ที่บ้านท่วมสูงแล้วค่ะ
หนีน้ำมากรุงเทพฯ ไม่รู้จะหนีเสือปะ จรเข้แล้วหรือเปล่า?
ขอบคุณบริษัท ที่ที่ไม่คิดเป็นเป็นวันลา สำหรับผู้ประสบอุทกภัย
*** ไม่เชื่ออย่าลบลู่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ กำลังเล่นงาน คนบางคน อยู่หรือเปล่า???????????????
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
#69
Posted 12 October 2011 - 11:41 AM
Best Regards,
Nittayanan E. (Nheung)
QA Aviation
E-mail: diow3954@hotmail.com
Cell Phone: +66 815992150
#70
Posted 12 October 2011 - 01:02 PM
เปิ้ล นาคร รวมรวมเรือ 50 ลำ(เจ็ทสกี) รออยู่ปากทางเข้า อ.วั...งน้อย มารออยู่ที่ปั้มน้ำมันเชลล์บริเวณปากทางเข้าอำเภอวังน้อยใครที่ต้องการความช่วยเหลือ
ในเรื่องเรือ และอยู่ในเขตจังหวัดอยุธยา ติดต่อได้ที่เบอร์ 0818415662 (ช่วยกันส่งต่อด้วย)ดูเพิ่มเติม
โดย Nopparat Thailand
#71
Posted 12 October 2011 - 04:30 PM
ขโมยของกันก็เยอะ
ระวังไว้ด้วยก็ดีนะครับ
#72
Posted 13 October 2011 - 12:01 PM
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
#73
Posted 13 October 2011 - 12:19 PM
#74
Posted 13 October 2011 - 04:28 PM
Subject: เบื้องหลัง 1 คืนที่โรงงาน "อิชิตัน" ของ "กัปตัน" และ "คำขอร้อง" จาก "ตัน ภาสกรนที"
"ผมเพิ่งโทรไปบอกลูกน้องว่าเรือ 100 ลำที่จะเอาไปบริจาค ให้เก็บไว้ลำหนึ่ง"
"ตัน ภาสกรนที" เล่าให้ฟังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตอนแรก ลูกน้องคิดว่า "ตัน" จะเล่นเคล็ดตัวเลข ลดจำนวนเรือจาก 100 เหลือ 99
เมื่อลูกน้องถามว่าอีกลำหนึ่งจะเอาไปไหน คำตอบก็คือ "เอาไว้ที่บ้าน"
"ตัน" บอกว่ามัวแต่ช่วยคนอื่น แต่ลืมตัวเอง มหันตภัยครั้งนี้ใหญ่หลวงกว่าที่ใครจะคาดคิด
"จุดต่ำสุด" หรือ "จุดที่แย่ที่สุด" ที่คนอยุธยาและนครสวรรค์เคยคาดการณ์ไว้ วันนี้ทุกคนรู้แล้วว่า
"ความจริง" ครั้งนี้เลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้หลายเท่าตัวนัก
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา "ตัน" ค่อนข้าง "อิน" กับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ตอนแรก เขาคิดว่าน้ำท่วมครั้งนี้จะบริจาคเงินช่วยเหลืออย่างเดียว
เพราะช่วงนี้ "ตัน" เริ่มลุยธุรกิจชาเขียว "อิชิตัน" อย่างเต็มตัว
ไม่มีเวลาว่างเหมือนตอนที่ช่วยน้ำท่วมครั้งก่อน
เขาขออนุญาตคู่ชีวิต "อิง" สุนิสา ภาสกรนที
ว่าจะบริจาคเงินก้อนใหญ่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม40 ล้านบาท
แต่หลังจากเห็นข่าวอุทกภัยครั้งใหญ่ "ตัน" ก็ทนไม่ได้
เขาระดมมิตรรักแฟนเพลงจาก "แฟนเพจ" ของเขามาช่วยบรรจุของลงถุงยังชีพ
เพื่อนำไปบริจาคให้กับผู้ที่เดือดร้อน
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ "อารีน่า10" มีคนไปร่วมประมาณ 2,000 คน
จากนั้น "ตัน" ก็ลุยซื้อเสื้อชูชีพ 10,000 ตัว และเรือท้องแบนขนาด 15-20
ที่นั่งจำนวน 100 ลำ ส้วมไฟเบอร์ 12 หลัง ส้วมกระดาษอีก 100 ชุด
และวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา "ตัน" ก็ขอแรง "แฟนเพจ" เป็นครั้งที่ 2 เพื่อบรรจุของลงในถุงยังชีพจำนวน 20,000 ชุด
ครั้งนี้มีคนไปร่วม "จิตอาสา" ถึง 7,000 คน
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม "ตัน" มีกำหนดการต้องไปมอบของให้กับผู้ว่าฯลพบุรี แต่เขาเปลี่ยนใจ เมื่อทราบข่าวจากลูกน้องว่าโรงงาน "อิชิตัน" มูลค่า
3,500 ล้านบาทของเขากำลังอยู่ช่วงวิกฤต "ตัน" ตัดสินใจเข้าไปโรงงาน "อิชิตัน" เพื่อสู้กับ"น้ำ"กับลูกน้อง
..................
ตั้งแต่เริ่มบริษัท ไม่ตัน และเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งเครื่องดื่มดับเบิ้ลดริ้งก์ และชาเขียวอิชิตัน
"ตัน" ใช้ระบบการจ้างผลิต เพราะโรงงานใหม่ของเขาอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร
และด้วยสไตล์การตัดสินใจอย่างรวดเร็วของ "ตัน" โรงงานมูลค่า 3,500 ล้านบาทใช้เวลาก่อสร้างไม่ถึง 1 ปี
เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โรงงานของเขาจะเดินเครื่องอย่างเต็มที่ และจะเป็นโรงงานชาเขียวที่มีกำลังการผลิตสูงสุดในเมืองไทย
ทันทีที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ และน้ำเริ่มตีโอบนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ "ตัน" ก่อกำแพงสูงกว่า 3 เมตร รอบโรงงาน
ตอนแรกเขาเชื่อมั่นว่ากำแพงดังกล่าวจะสู้กับ "น้ำ" ได้ แต่เมื่อโรงงานฮอนด้าถูกน้ำทะลักเข้าร่วม ความมั่นใจของ "ตัน" เริ่มลดลง
แต่ยังเชื่อว่า "ปาฎิหาริย์" น่าจะมีจริง
คืนวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม เขาได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องว่า "กำแพง" ที่กั้นไว้เริ่มจะสู้ไม่ไหว อาหารและน้ำเริ่มร่อยหรอ และ
น้ำมันที่ใช้กับเครื่องปั่นไฟเริ่มไม่พอเพียง ในขณะที่ลูกน้องเริ่มหมดแรงลงเรื่อยๆ "ตัน" ตัดสินใจเข้าไปโรงงาน เพื่อให้กำลังใจและสู้ร่วมกับ "ลูกน้อง"
ตอนเช้าที่คุยกัน "ตัน" ยังมีเสียงที่สดใส เขายังคิดแก้ปัญหาเรื่องการขนน้ำมันเข้าไปโรงงาน และวางแผนจะไปนอนที่โรงงานร่วมกับลูกน้อง
"ผมเตรียมชุดนอนไว้แล้ว" แต่พอตอนบ่าย เมื่อโทรศัพท์ไปคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เสียงของ "ตัน" เริ่มเปลี่ยนไป
เขาบอกว่าคงต้องยอมรับความเป็นจริง และวางแผนอพยพลูกน้องออกจากโรงงานให้ปลอดภัยที่สุด
"ผมจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากโรงงาน"
ผ่านไปจนถึงช่วงเย็น ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง "เจาะข่าวเด่น"
"สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" บุกเข้าไปในโรงงาน "อิชิตัน" เพื่อสัมภาษณ์ "ตัน"
ไม่มีใครเห็นภาพ เพราะรถถ่ายทอดสดไม่สามารถเข้าไปได้
มีแต่เสียงของ "ตัน" และ "สรยุทธ์" ช่วงต้นเขายังคุมอารมณ์อยู่ "ตัน"
ยังบอกว่าคนที่เดือดร้อนกว่าเขายังมีอีกมากมาย เขายังมีกำลังที่จะสู้ต่อได้
"แต่วันนี้คงจบแล้วสำหรับภารกิจกู้โรงงาน
พรุ่งนี้ก็กลับไปทำมาหากินกันต่อ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ
เราต้องมีกำลังใจ"
เมื่อ "สรยุทธ์" รู้ว่า "ตัน" จะนอนค้างที่นี่
เพื่อส่งพนักงานคนสุดท้ายออกไปให้หมด และเหลือคนอยู่เฝ้าโรงงาน 5 คน
เขาเสนอทางเลือกว่าให้ช่วยนำพนักงานออกให้หมดภายในคืนนี้แล้ว "ตัน"
ออกไปด้วยกันกับเขา แต่ "ตัน" ปฏิเสธ บอกว่าที่นี่ยังมีเครื่องปั่นไฟ มีอาหาร
"ผมขออยู่ที่นี่สักคืนหนึ่ง" เสียงของ "ตัน" เริ่มสั่นเครือ และขาดหายเป็นช่วงๆ
"....อยู่ให้สมกับที่ลงทุนไป"
ในจอโทรทัศน์มีแต่ความเงียบประมาณ 10 วินาที
ไม่มีเสียงของ "ตัน" หรือ "สรยุทธ์" เพราะ "ตัน" ร้องไห้
.................
ภาพของ "ตัน" น้ำตาคลอ แพร่ภาพอีกครั้งในช่วง "เรื่องเล่าเช้านี้"
พร้อมกับ "แฟนเพจ" เข้ามาให้กำลังใจ 6,000 กว่าคน
3 โมงเย็นของวันพุธที่ 12 ตุลาคม "ตัน" เพิ่งออกจากโรงงาน
"คุณเชื่อไหม ตลอดระยะทาง 14 กิโลเมตรจากโรงงาน มันมีแต่น้ำ
ทุกโรงงานมีแต่น้ำท่วมกับท่วมมาก" เขาเล่าว่าระหว่างที่นั่งรถจะมีคนงานโรงงานต่างๆขอโดยสารออกมาด้วย
แต่ละคนอยู่ในสภาพที่ทั้งหมดแรง และหมดกำลังใจ
"ผมยังมีแรง มีเงินที่จะสู้ต่อ แต่บางคนบ้านก็ถูกน้ำท่วม โรงงานก็ท่วม
บ้านก็ไม่มีอยู่ งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี น่าสงสารมาก"
จากประสบการณ์ครั้งนี้ "ตัน"
อยากฝากไปถึงคนไทยทุกคนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาของคนใดคนหนึ่ง
ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่เป็นของคนไทยทุกคน
"ถ้าเรียกร้องได้
ผมอยากเรียกร้องให้คนไทยที่ยังมีแรงอยู่ให้ออกมาช่วยกันให้มากที่สุด
ใครมีเงินช่วยเงิน ช่วยเรื่องสิ่งของ ใครมีแรงช่วยออกแรง
ปัญหาวันนี้มันหนักหนาสาหัสจริงๆ"
"ผมขอร้อง..."
#75
Posted 13 October 2011 - 09:46 PM
Subject: เบื้องหลัง 1 คืนที่โรงงาน "อิชิตัน" ของ "กัปตัน" และ "คำขอร้อง" จาก "ตัน ภาสกรนที"
"ผมเพิ่งโทรไปบอกลูกน้องว่าเรือ 100 ลำที่จะเอาไปบริจาค ให้เก็บไว้ลำหนึ่ง"
"ตัน ภาสกรนที" เล่าให้ฟังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตอนแรก ลูกน้องคิดว่า "ตัน" จะเล่นเคล็ดตัวเลข ลดจำนวนเรือจาก 100 เหลือ 99
เมื่อลูกน้องถามว่าอีกลำหนึ่งจะเอาไปไหน คำตอบก็คือ "เอาไว้ที่บ้าน"
"ตัน" บอกว่ามัวแต่ช่วยคนอื่น แต่ลืมตัวเอง มหันตภัยครั้งนี้ใหญ่หลวงกว่าที่ใครจะคาดคิด
"จุดต่ำสุด" หรือ "จุดที่แย่ที่สุด" ที่คนอยุธยาและนครสวรรค์เคยคาดการณ์ไว้ วันนี้ทุกคนรู้แล้วว่า
"ความจริง" ครั้งนี้เลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้หลายเท่าตัวนัก
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา "ตัน" ค่อนข้าง "อิน" กับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ตอนแรก เขาคิดว่าน้ำท่วมครั้งนี้จะบริจาคเงินช่วยเหลืออย่างเดียว
เพราะช่วงนี้ "ตัน" เริ่มลุยธุรกิจชาเขียว "อิชิตัน" อย่างเต็มตัว
ไม่มีเวลาว่างเหมือนตอนที่ช่วยน้ำท่วมครั้งก่อน
เขาขออนุญาตคู่ชีวิต "อิง" สุนิสา ภาสกรนที
ว่าจะบริจาคเงินก้อนใหญ่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม40 ล้านบาท
แต่หลังจากเห็นข่าวอุทกภัยครั้งใหญ่ "ตัน" ก็ทนไม่ได้
เขาระดมมิตรรักแฟนเพลงจาก "แฟนเพจ" ของเขามาช่วยบรรจุของลงถุงยังชีพ
เพื่อนำไปบริจาคให้กับผู้ที่เดือดร้อน
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ "อารีน่า10" มีคนไปร่วมประมาณ 2,000 คน
จากนั้น "ตัน" ก็ลุยซื้อเสื้อชูชีพ 10,000 ตัว และเรือท้องแบนขนาด 15-20
ที่นั่งจำนวน 100 ลำ ส้วมไฟเบอร์ 12 หลัง ส้วมกระดาษอีก 100 ชุด
และวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา "ตัน" ก็ขอแรง "แฟนเพจ" เป็นครั้งที่ 2 เพื่อบรรจุของลงในถุงยังชีพจำนวน 20,000 ชุด
ครั้งนี้มีคนไปร่วม "จิตอาสา" ถึง 7,000 คน
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม "ตัน" มีกำหนดการต้องไปมอบของให้กับผู้ว่าฯลพบุรี แต่เขาเปลี่ยนใจ เมื่อทราบข่าวจากลูกน้องว่าโรงงาน "อิชิตัน" มูลค่า
3,500 ล้านบาทของเขากำลังอยู่ช่วงวิกฤต "ตัน" ตัดสินใจเข้าไปโรงงาน "อิชิตัน" เพื่อสู้กับ"น้ำ"กับลูกน้อง
..................
ตั้งแต่เริ่มบริษัท ไม่ตัน และเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งเครื่องดื่มดับเบิ้ลดริ้งก์ และชาเขียวอิชิตัน
"ตัน" ใช้ระบบการจ้างผลิต เพราะโรงงานใหม่ของเขาอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร
และด้วยสไตล์การตัดสินใจอย่างรวดเร็วของ "ตัน" โรงงานมูลค่า 3,500 ล้านบาทใช้เวลาก่อสร้างไม่ถึง 1 ปี
เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โรงงานของเขาจะเดินเครื่องอย่างเต็มที่ และจะเป็นโรงงานชาเขียวที่มีกำลังการผลิตสูงสุดในเมืองไทย
ทันทีที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ และน้ำเริ่มตีโอบนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ "ตัน" ก่อกำแพงสูงกว่า 3 เมตร รอบโรงงาน
ตอนแรกเขาเชื่อมั่นว่ากำแพงดังกล่าวจะสู้กับ "น้ำ" ได้ แต่เมื่อโรงงานฮอนด้าถูกน้ำทะลักเข้าร่วม ความมั่นใจของ "ตัน" เริ่มลดลง
แต่ยังเชื่อว่า "ปาฎิหาริย์" น่าจะมีจริง
คืนวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม เขาได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องว่า "กำแพง" ที่กั้นไว้เริ่มจะสู้ไม่ไหว อาหารและน้ำเริ่มร่อยหรอ และ
น้ำมันที่ใช้กับเครื่องปั่นไฟเริ่มไม่พอเพียง ในขณะที่ลูกน้องเริ่มหมดแรงลงเรื่อยๆ "ตัน" ตัดสินใจเข้าไปโรงงาน เพื่อให้กำลังใจและสู้ร่วมกับ "ลูกน้อง"
ตอนเช้าที่คุยกัน "ตัน" ยังมีเสียงที่สดใส เขายังคิดแก้ปัญหาเรื่องการขนน้ำมันเข้าไปโรงงาน และวางแผนจะไปนอนที่โรงงานร่วมกับลูกน้อง
"ผมเตรียมชุดนอนไว้แล้ว" แต่พอตอนบ่าย เมื่อโทรศัพท์ไปคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เสียงของ "ตัน" เริ่มเปลี่ยนไป
เขาบอกว่าคงต้องยอมรับความเป็นจริง และวางแผนอพยพลูกน้องออกจากโรงงานให้ปลอดภัยที่สุด
"ผมจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากโรงงาน"
ผ่านไปจนถึงช่วงเย็น ในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง "เจาะข่าวเด่น"
"สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" บุกเข้าไปในโรงงาน "อิชิตัน" เพื่อสัมภาษณ์ "ตัน"
ไม่มีใครเห็นภาพ เพราะรถถ่ายทอดสดไม่สามารถเข้าไปได้
มีแต่เสียงของ "ตัน" และ "สรยุทธ์" ช่วงต้นเขายังคุมอารมณ์อยู่ "ตัน"
ยังบอกว่าคนที่เดือดร้อนกว่าเขายังมีอีกมากมาย เขายังมีกำลังที่จะสู้ต่อได้
"แต่วันนี้คงจบแล้วสำหรับภารกิจกู้โรงงาน
พรุ่งนี้ก็กลับไปทำมาหากินกันต่อ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ
เราต้องมีกำลังใจ"
เมื่อ "สรยุทธ์" รู้ว่า "ตัน" จะนอนค้างที่นี่
เพื่อส่งพนักงานคนสุดท้ายออกไปให้หมด และเหลือคนอยู่เฝ้าโรงงาน 5 คน
เขาเสนอทางเลือกว่าให้ช่วยนำพนักงานออกให้หมดภายในคืนนี้แล้ว "ตัน"
ออกไปด้วยกันกับเขา แต่ "ตัน" ปฏิเสธ บอกว่าที่นี่ยังมีเครื่องปั่นไฟ มีอาหาร
"ผมขออยู่ที่นี่สักคืนหนึ่ง" เสียงของ "ตัน" เริ่มสั่นเครือ และขาดหายเป็นช่วงๆ
"....อยู่ให้สมกับที่ลงทุนไป"
ในจอโทรทัศน์มีแต่ความเงียบประมาณ 10 วินาที
ไม่มีเสียงของ "ตัน" หรือ "สรยุทธ์" เพราะ "ตัน" ร้องไห้
.................
ภาพของ "ตัน" น้ำตาคลอ แพร่ภาพอีกครั้งในช่วง "เรื่องเล่าเช้านี้"
พร้อมกับ "แฟนเพจ" เข้ามาให้กำลังใจ 6,000 กว่าคน
3 โมงเย็นของวันพุธที่ 12 ตุลาคม "ตัน" เพิ่งออกจากโรงงาน
"คุณเชื่อไหม ตลอดระยะทาง 14 กิโลเมตรจากโรงงาน มันมีแต่น้ำ
ทุกโรงงานมีแต่น้ำท่วมกับท่วมมาก" เขาเล่าว่าระหว่างที่นั่งรถจะมีคนงานโรงงานต่างๆขอโดยสารออกมาด้วย
แต่ละคนอยู่ในสภาพที่ทั้งหมดแรง และหมดกำลังใจ
"ผมยังมีแรง มีเงินที่จะสู้ต่อ แต่บางคนบ้านก็ถูกน้ำท่วม โรงงานก็ท่วม
บ้านก็ไม่มีอยู่ งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี น่าสงสารมาก"
จากประสบการณ์ครั้งนี้ "ตัน"
อยากฝากไปถึงคนไทยทุกคนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาของคนใดคนหนึ่ง
ไม่ใช่ของรัฐบาล แต่เป็นของคนไทยทุกคน
"ถ้าเรียกร้องได้
ผมอยากเรียกร้องให้คนไทยที่ยังมีแรงอยู่ให้ออกมาช่วยกันให้มากที่สุด
ใครมีเงินช่วยเงิน ช่วยเรื่องสิ่งของ ใครมีแรงช่วยออกแรง
ปัญหาวันนี้มันหนักหนาสาหัสจริงๆ"
"ผมขอร้อง..."
ผู้ชายคนนี้ หาคำใดๆมาบรรยายมิได้เลย ที่สุดของที่สุดจริงๆ
ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีครับ
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users