ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com

ขอคำแนะนำการ implement iso สำหรับแผนก R&D ด้วยค่ะ
#1
Posted 20 January 2012 - 03:18 PM
พอไปหาใน internet ก็ละเว้นข้อ 7.3 กันหมดเลย พอจะมีคำแนะนำให้ได้ไม้คะ
จะเริ่มต้นจากอะไรดี...
- แต่ว่าส่วนอื่นของบริษัทมี iso แล้ว เลยไม่แน่ใจว่า ต้องขอเพิ่ม scope จากใบเดิม หรือว่าต้องขอใหม่เฉพาะแผนก R&D เลยค่ะ
แล้วถ้าทำได้ทั้งสองแบบ มีข้อดีและข้อด้อยต่างกันอย่างไร
#2
Posted 20 January 2012 - 03:25 PM
พอไปหาใน internet ก็ละเว้นข้อ 7.3 กันหมดเลย พอจะมีคำแนะนำให้ได้ไม้คะ
จะเริ่มต้นจากอะไรดี...
- แต่ว่าส่วนอื่นของบริษัทมี iso แล้ว เลยไม่แน่ใจว่า ต้องขอเพิ่ม scope จากใบเดิม หรือว่าต้องขอใหม่เฉพาะแผนก R&D เลยค่ะ
แล้วถ้าทำได้ทั้งสองแบบ มีข้อดีและข้อด้อยต่างกันอย่างไร
Products เป็นอะไรครับ
ถ้าจะเพิ่ม R&D เข้าไปใน Scope ก็แจ้ง CB ได้เลยครับ เขาจะมาตรวจงาน R&D ตอนตรวจติดตามประจำปี และจะออกใบ Certificate ให้ใหม่ครับ ไม่ต้องขอแยกครับ เปลือง
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#3
Posted 20 January 2012 - 03:40 PM
#4
Posted 21 January 2012 - 08:33 AM

ส่วนประเด็นว่าจะทำอย่างไร ขอแนะนำแบบคร่าวๆ ละกันครับ
1. ต้องมีแผนในการดำเนินการ ปกติก็มาจากที่เราคุยกับลูกค้า ว่าจะให้เสร็จเมื่อไหร่
2. กำหนดเป้าหมายสำหรับการทำ R&D (ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับ KPI นะ) เช่น อยากจะให้สารเคมีที่เรามีอยู่ มีคุณสมบัติด้านใดที่ดีขึ้น เช่น หนืดขึ้น คุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีขึ้น
3. เมื่อได้เป้าหมายของการ R&D แล้ว ทีนี้ก็รวบรวมข้อมูลที่เรามีอยู่ เช่น อาจจะพัฒนาจากสูตรเดิม เติมสารเคมีเข้าไปบางตัว ปรับ condition การผลิต กลุ่มนี้เรียกว่า Design Input โดยจะต้องมีการทบทวนด้วยว่า มันไปขัดกับข้อกำหนดอะไรของเราเอง ข้อกำหนดด้านกฎหมาย ข้อกำหนดของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือไม่ อาจหมายรวมไปถึงต้องทบทวนด้วยว่า มันจะไปทำปฏิกิริยากับสารเคมีที่เป็น base อยู่หรือเปล่า
4. ดำเนินการตาม condition ต่างๆ ตามข้อบนที่กำหนดไว้
5. ทวนสอบผล ว่าได้ตามข้อ 2 หรือไม่ อันนี้เป็น Verification
6. ส่งตัวอย่างไปให้ลูกค้า approve ขั้นนี้เป็น Validation
7. ช่วงการพัฒนา อาจมีปัญหาติดขัดต่างๆ หรือมีการเปลี่ยนแปลงฉับพลันทันด่วน ก็นำเข้ามาคุยกัน อันนี้เป็น Review + Change control
ทั้งหมดทุกขั้นต้องมีบันทึกนะครับ ลองเอาไปเขียนเป็น Procedure + สร้างแบบฟอร์มดูครับ
#5
Posted 21 January 2012 - 09:06 AM
ทำ Petrochemical แต่ยกเว้น R&D แล้วเสียเชิงแย่เลยครับ
เปรียบไปก็เหมือนโรงพยาบาลที่ทำ ISO แต่ขอยกว้นกระบวนการผ่าตัด ยกเว้น Scope งานของ ICU มันดูแหม่งๆเน๊าะ รู้สึกเสียวๆยังไงไม่รู้
ว่างๆลองไปเรียนเรื่อง APQP ของมาตรฐานรถยนต์ดูครับ มันเป็นหลักการของ Project Management ตั้งแต่ต้นจนจบ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เลยครับ
อีกอย่าง งาน Petrochemical ส่วนใหญ่มันจะมีมาตรฐานระดับนานาชาติกำกับอยู่แล้ว ทั้งชาตินี้และชาติหน้าด้วย ง่ายในการเอามา C&D ครับ ไม่ต้องเริ่มจาก "0" จร้า
สู้ๆครับ ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน

Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#6
Posted 23 January 2012 - 09:02 AM
#7
Posted 23 January 2012 - 09:25 AM
ก หรือ รวมกันก็ได้นะครับ โชคดีครับ

ส่วนประเด็นว่าจะทำอย่างไร ขอแนะนำแบบคร่าวๆ ละกันครับ
1. ต้องมีแผนในการดำเนินการ ปกติก็มาจากที่เราคุยกับลูกค้า ว่าจะให้เสร็จเมื่อไหร่
2. กำหนดเป้าหมายสำหรับการทำ R&D (ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับ KPI นะ) เช่น อยากจะให้สารเคมีที่เรามีอยู่ มีคุณสมบัติด้านใดที่ดีขึ้น เช่น หนืดขึ้น คุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีขึ้น
3. เมื่อได้เป้าหมายของการ R&D แล้ว ทีนี้ก็รวบรวมข้อมูลที่เรามีอยู่ เช่น อาจจะพัฒนาจากสูตรเดิม เติมสารเคมีเข้าไปบางตัว ปรับ condition การผลิต กลุ่มนี้เรียกว่า Design Input โดยจะต้องมีการทบทวนด้วยว่า มันไปขัดกับข้อกำหนดอะไรของเราเอง ข้อกำหนดด้านกฎหมาย ข้อกำหนดของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือไม่ อาจหมายรวมไปถึงต้องทบทวนด้วยว่า มันจะไปทำปฏิกิริยากับสารเคมีที่เป็น base อยู่หรือเปล่า
4. ดำเนินการตาม condition ต่างๆ ตามข้อบนที่กำหนดไว้
5. ทวนสอบผล ว่าได้ตามข้อ 2 หรือไม่ อันนี้เป็น Verification
6. ส่งตัวอย่างไปให้ลูกค้า approve ขั้นนี้เป็น Validation
7. ช่วงการพัฒนา อาจมีปัญหาติดขัดต่างๆ หรือมีการเปลี่ยนแปลงฉับพลันทันด่วน ก็นำเข้ามาคุยกัน อันนี้เป็น Review + Change control
ทั้งหมดทุกขั้นต้องมีบันทึกนะครับ ลองเอาไปเขียนเป็น Procedure + สร้างแบบฟอร์มดูครับ
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
3 user(s) are reading this topic
0 members, 3 guests, 0 anonymous users