ในการทำ Gap Analysis ของ ISO 9001:2015 จะเป็นการตรวจประเมินเบื้องต้น
เพื่อหาความแตกต่างของระบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันขององค์กร กับข้อกำหนดของมาตรฐานที่ต้องการจัดทำ
ซึ่งจะทำให้ทราบว่าต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกเพื่อสอดคล้องตามข้อกำหนดของมาตรฐาน
1. ในการตรวจ Gap Analysis ทาง CB ก็จะขอดูเอกสารที่องค์กรทำขึ้น โดยเรียงลำดับ
ตามข้อกำหนดต่างๆ ว่าเอกสารที่ทำขึ้นมาถูกต้อง มีข้อมูลเพียงพอหรือไม่
สำหรับตัวอย่างที่ทาง CB ให้เป็น Gap ไว้ประมาณนี้ ครับ
4.1 ในการวิเคราะห์บริบทขององค์กรเกี่ยวกับประเด็นภายใน ภายนอก โดยแต่ละฝ่าย
วิเคราะห์ไม่เป็นไปตามแนวทางเดี่ยวกับองค์กร (ต้องยึดแนวทางขององค์กรเป็นหลัก)
4.3 กำหนดของเขต ในส่วนที่ขอรับการรับรองมาตรฐานเป็นแผนผัง
6.1.1 & 6.1.2 การระบุและวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาส ตามข้อ 4.1, 4.2, 4.4 ให้เหมาะสม
6.2.1 ในการตั้ง KPI ให้รวมลงไปถึงระดับแผนกด้วย
6.2.2 ในการทำ Action Plan ต้องมีรายละเอียดให้ครบ ตามข้อกำหนดระบุ แล้วในส่วน
ของทรัพยากร ต้องระบุตามข้อกำหนด 7.1
7.1.5 เครื่องมือวัด ควรเลือกบริษัทรับสอบเทียบที่ได้ระบบ ISO 17025
7.1.6 ความรู้ขององค์กร ควรมีให้ครบทุกแผนก
8.7 เรื่อง NCR ต้องมีผู้อนุมัติผลการแก้ไข NCR และผู้ที่แก้ไขต้อง
ทบทวนหาสาเหตุ และแนวทางแก้ไข ป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก
10.2 เรื่อง CAR ในช่วงการวางแผนการแก้ไข CAR ควรมีการทบทวนเกี่ยวกับ
ความเสี่ยงและโอกาส ตามความเหมาะสม
2. ในการทำ IQA ต้องทำให้ครบตามข้อกำหนด (ยกเว้นในส่วนที่ไม่ประยุกต์ใช้ เช่น การออกแบบ ข้อกำหนด 8.3)
ถ้าเป็น Version 2008 จะใช้คำว่า ขอยกเว้น
3. ในการตรวจ Gap Analysis เมื่อตรวจเสร็จแล้ว ทาง CB จะสรุปให้เราฟังว่า
ที่ผ่านการตรวจประเมินมา มีเอกสารส่วนไหนที่ต้องจัดทำเพิ่ม หรือแก้ไข ถ้ามีประเด็น
ไม่มาก ทาง CB ก็จะบอกว่าให้ดำเนินการแก้ไข แล้วใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ทาง CB
จะนัดตรวจเพื่อการรับรอง ครับ