6 replies to this topic

[ISO Supervisor]

บริษัทเพิ่งจะดำเนินการขอใบรับรองระบบ ISO14001:2015 ค่ะ

กิจกรรมของบริษัทไม่มีการใช้น้ำในกระบวนการผลิต น้ำเสียจึงจะมาจากห้องน้ำและโรงอาหารเป็นหลักค่ะ

ได้รับการตรวจ Initial audit จาก CB ไปแล้วค่ะ

auditor มี observation เกี่ยวกับกฎหมายที่ยังไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาชี้บ่งในทะเบียนกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมเรื่อง

"ประกาศกระทรวง เรื่อง กำหนดปริมาณไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอิโคไล และวิธีการเก็บตัวอย่างและการตรวจหาไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอิโคไลในน้ำทิ้งและกากตะกอนที่ผ่านระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลแล้ว พ.ศ. 2561"

คือได้อ่านกฎหมายฉบับนี้แล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับบริษัทอย่างไรค่ะ เข้าใจว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ได้รับอนุญาตและกำจัดสิ่งปฏิกูล

แล้วหากเกี่ยวข้อง บริษัทจะต้องทำอะไรให้สอดคล้องกับกฎหมายข้อนี้

รบกวนผู้รู้ด้วยนะคะ

[iso_man]

บริษัทเพิ่งจะดำเนินการขอใบรับรองระบบ ISO14001:2015 ค่ะ

กิจกรรมของบริษัทไม่มีการใช้น้ำในกระบวนการผลิต น้ำเสียจึงจะมาจากห้องน้ำและโรงอาหารเป็นหลักค่ะ

ได้รับการตรวจ Initial audit จาก CB ไปแล้วค่ะ

auditor มี observation เกี่ยวกับกฎหมายที่ยังไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาชี้บ่งในทะเบียนกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมเรื่อง

"ประกาศกระทรวง เรื่อง กำหนดปริมาณไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอิโคไล และวิธีการเก็บตัวอย่างและการตรวจหาไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอิโคไลในน้ำทิ้งและกากตะกอนที่ผ่านระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลแล้ว พ.ศ. 2561"

คือได้อ่านกฎหมายฉบับนี้แล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับบริษัทอย่างไรค่ะ เข้าใจว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ได้รับอนุญาตและกำจัดสิ่งปฏิกูล

แล้วหากเกี่ยวข้อง บริษัทจะต้องทำอะไรให้สอดคล้องกับกฎหมายข้อนี้

รบกวนผู้รู้ด้วยนะคะ

ผมอ่านแล้วมองว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมองค์กรเลยครับ “การจัดการสิ่งปฏิกูล” หมายความว่า กระบวนการดําเนินการตั้งแต่ระบบการรองรับ การเก็บ การขน และการกําจัดสิ่งปฏิกูล พอไปดูกฎหมายอ้างอิงยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมขององค์กร http://www.ratchakit...61/A/043/32.PDF ลองไปอ่านตามนี้ดูครับ อีกอย่างโรงงานอยู่นอกนิคมหรือเปล่าครับ อ่านดีๆนะครับเขาพูดถึงน้ำเสียและกากตะกอน ไม่น่าใช่ขององค์กรคุณ

[ISO Supervisor]

ผมอ่านแล้วมองว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมองค์กรเลยครับ “การจัดการสิ่งปฏิกูล” หมายความว่า กระบวนการดําเนินการตั้งแต่ระบบการรองรับ การเก็บ การขน และการกําจัดสิ่งปฏิกูล พอไปดูกฎหมายอ้างอิงยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมขององค์กร http://www.ratchakit...61/A/043/32.PDF ลองไปอ่านตามนี้ดูครับ อีกอย่างโรงงานอยู่นอกนิคมหรือเปล่าครับ อ่านดีๆนะครับเขาพูดถึงน้ำเสียและกากตะกอน ไม่น่าใช่ขององค์กรคุณ

โรงงานตั้งอยู่ในนิคมฯค่ะ 

มองว่าไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมขององค์กรเหมือนกันค่ะ ก็ยังงงๆ

ตอน closing meeting ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยค่ะ พอเค้าส่ง audit report มากลับมีรายละเอียดเรื่องนี้อยู่ใน report ยังไงคงต้องติดต่อกับทาง auditor เพื่อทำความเข้าใจกันใหม่ค่ะ

[iso_man]

โรงงานตั้งอยู่ในนิคมฯค่ะ 

มองว่าไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมขององค์กรเหมือนกันค่ะ ก็ยังงงๆ

ตอน closing meeting ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยค่ะ พอเค้าส่ง audit report มากลับมีรายละเอียดเรื่องนี้อยู่ใน report ยังไงคงต้องติดต่อกับทาง auditor เพื่อทำความเข้าใจกันใหม่ค่ะ

55555 อย่างนี้ก็ได้เหรอตอน Close ไม่พูดถึง แจ้งกลับไปเลยครับ ยิ่งในนิคมฯ ไม่เคยเจอเลยครับจากที่วางระบบให้กับหลายองค์กรมากว่า 10ปี

[krissarakorn]

“สิ่งปฏิกูล” หมายความว่า อุจจาระหรือปัสสาวะของคน หรือสิ่งอื่นใดที่ปนเปื้อนอุจจาระ หรือปัสสาวะ

“กากตะกอน” หมายความว่า ส่วนที่เป็นของแข็งซึ่งเหลือจากการกําจัดสิ่งปฏิกูล

“การกําจัดสิ่งปฏิกูล” หมายความว่า การบําบัด การปรับปรุงหรือแปรสภาพสิ่งปฏิกูล ให้ปราศจากมลภาวะ สภาพอันน่ารังเกียจ หรือการก่อให้เกิดโรค เพื่อนําไปใช้ประโยชน์หรือทําลาย

 

ข้อ ๖ เจ้าของหรือผู้ครอบครองบ้านพักอาศัย อาคาร หรือสถานที่ที่มีส้วมต้องจัดให้มี ระบบกําจัดสิ่งปฏิกูลแบบติดกับที่หรือต้องต่อท่อไปยังระบบกําจัดสิ่งปฏิกูลรวมตามข้อ ๑๔ วรรคหนึ่ง (๒) การนําน้ําทิ้งและกากตะกอนที่ผ่านการกําจัดสิ่งปฏิกูลออกจากระบบกําจัดสิ่งปฏิกูลตามวรรคหนึ่ง น้ําทิ้งและกากตะกอนนั้นต้องได้มาตรฐานตามข้อ ๑๕ วรรคหนึ่ง

 

ข้อ ๑๕ ในการระบายน้ําทิ้งและกากตะกอนที่ผ่านระบบกําจัดสิ่งปฏิกูลแล้ว น้ําทิ้งและกากตะกอน ต้องมีปริมาณไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia coli) ไม่เกินปริมาณที่รัฐมนตรี โดยคําแนะนําของคณะกรรมการประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา วิธีการเก็บตัวอย่างและการตรวจหาไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia coli) ในน้ําทิ้งและกากตะกอนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่รัฐมนตรี โดยคําแนะนําของคณะกรรมการประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา

[ISO Supervisor]

“สิ่งปฏิกูล” หมายความว่า อุจจาระหรือปัสสาวะของคน หรือสิ่งอื่นใดที่ปนเปื้อนอุจจาระ หรือปัสสาวะ

“กากตะกอน” หมายความว่า ส่วนที่เป็นของแข็งซึ่งเหลือจากการกําจัดสิ่งปฏิกูล

“การกําจัดสิ่งปฏิกูล” หมายความว่า การบําบัด การปรับปรุงหรือแปรสภาพสิ่งปฏิกูล ให้ปราศจากมลภาวะ สภาพอันน่ารังเกียจ หรือการก่อให้เกิดโรค เพื่อนําไปใช้ประโยชน์หรือทําลาย

 

ข้อ ๖ เจ้าของหรือผู้ครอบครองบ้านพักอาศัย อาคาร หรือสถานที่ที่มีส้วมต้องจัดให้มี ระบบกําจัดสิ่งปฏิกูลแบบติดกับที่หรือต้องต่อท่อไปยังระบบกําจัดสิ่งปฏิกูลรวมตามข้อ ๑๔ วรรคหนึ่ง (๒) การนําน้ําทิ้งและกากตะกอนที่ผ่านการกําจัดสิ่งปฏิกูลออกจากระบบกําจัดสิ่งปฏิกูลตามวรรคหนึ่ง น้ําทิ้งและกากตะกอนนั้นต้องได้มาตรฐานตามข้อ ๑๕ วรรคหนึ่ง

 

ข้อ ๑๕ ในการระบายน้ําทิ้งและกากตะกอนที่ผ่านระบบกําจัดสิ่งปฏิกูลแล้ว น้ําทิ้งและกากตะกอน ต้องมีปริมาณไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia coli) ไม่เกินปริมาณที่รัฐมนตรี โดยคําแนะนําของคณะกรรมการประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา วิธีการเก็บตัวอย่างและการตรวจหาไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia coli) ในน้ําทิ้งและกากตะกอนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่รัฐมนตรี โดยคําแนะนําของคณะกรรมการประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา

1. ปกติแล้วน้ำและสิ่งปฏิกูลจะไหลไปรวมกับที่ Septic tank ซึ่่่่่งจะมีแบคทีเรียในการกำจัดสิ่งปฏิกูล หลังจากนั้นจะระบายน้ำไปยังถังพักที่มีปั๊มน้ำเพื่อระบายให้น้ำไหลลงบ่อพักของบริษัทเพื่อตรววจสอบคุณภาพน้ำตามมาตรฐานของการนิคมฯ แล้วระบายสู่รางระบายน้ำของนิคม (Flow อาจผิดพลาดบ้าง แต่น่าจะประมาณนี้)
2. กากตะกอนของสิ่งปฏิกูลที่ว่า เข้าใจว่าคือที่เราจ้างให้ผู้ให้บริการสูบสิ่งปฏิกูลที่ได้รับอนุญาตให้บริการและกำจัดฯ มาสูบเพื่อไปกำจัดต่อไป

หากกฎหมายฉบับนี้มีความเกี่ยวข้องกับองค์ องค์กรต้องดำเนินการอะไรคะ

ถ้าหากเกี่ยวข้องหมายความว่าโรงงานทั่วประเทศก็ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายข้อนี้ใช่หรือไม่ รบกวนผู้มีประสบการณ์มาแชร์ค่ะ

[iso_man]

 

1. ปกติแล้วน้ำและสิ่งปฏิกูลจะไหลไปรวมกับที่ Septic tank ซึ่่่่่งจะมีแบคทีเรียในการกำจัดสิ่งปฏิกูล หลังจากนั้นจะระบายน้ำไปยังถังพักที่มีปั๊มน้ำเพื่อระบายให้น้ำไหลลงบ่อพักของบริษัทเพื่อตรววจสอบคุณภาพน้ำตามมาตรฐานของการนิคมฯ แล้วระบายสู่รางระบายน้ำของนิคม (Flow อาจผิดพลาดบ้าง แต่น่าจะประมาณนี้)
2. กากตะกอนของสิ่งปฏิกูลที่ว่า เข้าใจว่าคือที่เราจ้างให้ผู้ให้บริการสูบสิ่งปฏิกูลที่ได้รับอนุญาตให้บริการและกำจัดฯ มาสูบเพื่อไปกำจัดต่อไป

หากกฎหมายฉบับนี้มีความเกี่ยวข้องกับองค์ องค์กรต้องดำเนินการอะไรคะ

ถ้าหากเกี่ยวข้องหมายความว่าโรงงานทั่วประเทศก็ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายข้อนี้ใช่หรือไม่ รบกวนผู้มีประสบการณ์มาแชร์ค่ะ

 

ข้อ ๒๐ มิให้นำมาตรฐานของระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลตามข้อ ๑๔ มาใช้บังคับกับเจ้าของหรือผู้ครอบครองบ้านพักอาศัย อาคาร หรือสถานที่ตามข้อ ๖ วรรคหนึ่ง ที่ได้ติดตั้งระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลอยู่แล้วในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ข้อ ๑๕ ในการระบายน้ำทิ้งและกากตะกอนที่ผ่านระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลแล้ว น้ำทิ้งและกากตะกอนต้องมีปริมาณไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia coli) ไม่เกินปริมาณที่รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
วิธีการเก็บตัวอย่างและการตรวจหาไข่หนอนพยาธิและแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia coli)ในน้ำทิ้งและกากตะกอนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

ตามความเห็นนะครับ น้ำทิ้งของโรงงานเนื่องจากเข้าระบบบำบัดรวมของกนอ. จึงไม่ต้องตรวจ และหากต้องดูดกากตะกอนจากบ่อส้วม คงต้องตักตรวจตามกฎหมายแต่ที่ผ่านไม่ค่อยเห็นโรงงานสูบส้วมเลยนะครับ ดังนั้นการประยุกต์คงต้องเพิ่มเรื่องการนำกากตะกอนออกจกบ่อส้วม ต้องตรวจตามข้อ 15 ละครับ