ร็วนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 จะมีกฎหมายใหม่ออกมาบังคับซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบทุกคนในประเทศนั่นคือ Product Liability หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งกฎหมายที่ออกมาเป็นพรบ. หากท่านใดได้อ่าน ISO9001 Version 2008 จะมีพูดถึงสิ่งที่ท่านต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องการผลิตภัณฑ์ท่าน นี่คือกฎหมายหนึ่งที่ท่านควรรู้
พรบ. ความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2551
ทำไม่ถึงมีกฎหมายนี้ออกมา
-
การผลิตสินค้ามีการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสูงขึ้นเรื่อยๆ
- การที่ผู้บริโภคจะตรวจพบว่าสินค้าไม่ปลอดภัยกระทำได้ยากเช่น อาหาร ยา รถยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า
- การฟ้องร้องคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายมีความยุ่งยาก เนื่องจากภาระในการพิสูจน์จะตกแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหาย
สินค้าที่ไม่ปลอดภัยหมายถึง สินค้าที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุจาก
ความบกพร่องในการผลิต หรือการออกแบบ หรือไม่ได้กำหนดวิธีใช้ วิธีเก็บรักษา คำเตือน หรือข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือกำหนดไว้ แต่ไม่ถูกต้องหรือไม่ชัดเจนตามสมควร ท้งนี้โดยคำนึงถึงสภาพของสินค้า รวมทั้งสภาพการใช้งานและเก็บรักษาตามปกติธรรมดาของสินค้า
ความรับผิดของผู้ประกอบการ[/b]
- ผู้ประกอบการทุกคนต้องร่วมรับผิดต่อผู้เสียหายในความเสียหายที่เกิดจากสินค้าที่ไม่ป
ลอดภัย และสินค้านั้นได้มีการขายให้กับผู้บริโภคแล้ว [b]ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดจากการกระทำโดยจงใจ หรือ ประมาทเลินเล่อของผู้ประกอบการหรือไม่ก็ตาม
- เพื่อให้ผู้ประกอบการต้องรับผิด ผู้เสียหายหรือผู้มีสิทธิฟ้องคดีแทนต้องพิสูจน์ว่าผู้เสียหายจากสินค้าของผู้ประกอบก
าร และการใช้หรือการเก็บรักษาสินค้านั้นเป็นไปตามปกติธรรมดา
แต่ไม่ต้องพิสูจน์ว่าความเสียหายเกิดจากการกระทำของผู้ประกอบการผู้ใด
อายุความ
- สิทธิการเรียกร้องค่าเสียหายตามพรบ.นี้จะขาดอายุความเมื่อพ้นสามปี นับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้ถึงความเสียหาย และรู้ตัวผู้ประกอบการที่ต้องรับผิด หรือ เมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันที่มีการขายสินค้านั้น
มาตรฐานอุตสาหกรรม และ ISO ช่วยอะไรได้หรือไม่ ติดตามตอนที่ 2 ต่อในวันพรุ่งนี้ 
มาแว๊วตอนสอง
จากกฎหมายดังกล่าวมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ ระบบการจัดการที่ได้รับรอง
ไม่สามารถนำมาอ้างอิงในการพิสูจน์ผลิตภัณฑ์ได้ แต่ข้อยกเว้นที่ไม่ต้องรับผิดหากพิสูจน์ได้ว่า
- สินค้านั้นมิได้เป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัย
- ผู้เสียหายรู้อยู่แล้วว่าสินค้านั้นเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัย เช่น บุหรี่ สุรา
- ความเสียหายเกิดจากการใช้หรือการเก็บรักษาไม่ถูกต้องตามวิธีใช้ วิธีเก็บรักษา คำเตือน หรือข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ผู้ประกอบการได้กำหนดอย่างถูกต้องและชัดเจนตามสมควร
- ผู้ผลิตตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างให้ผลิตไม่ต้องรับผิดหากพิสูจน์ได้ว่า ความไม่ปลอดภัยของสินค้าเกิดจากการออกแบบของผู้ว่าจ้างให้ผลิตหรือจากการปฏิบัติตามค
ำสั่งของผู้ว่าจ้างให้ผลิต
- ผู้ผลิตส่วนประกอบของสินค้าไม่ต้องรับผิดหากพิสูจน์ได้ว่าความไม่ปลอดภัยของสินค้าเก
ิดจากการออกแบบหรือการประกอบ หรือการกำหนดวิธีใช้ วิธีเก็บรักษา คำเตือน หรือข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของผู้ผลิตสินค้านั้น
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าต้องเป็นการพิสูจน์จากผู้ผลิตทั้งนั้น ซึ่งหากองค์กรที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ ระบบการจัดการ เอกสารที่่สามารถนำมายืนยันได้ก็คือ
การตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์นั้นตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งต้องจัดเก็บเอกสารหลักฐานต้องสอดคล้องกับกฎหมาย คือ ไม่น้อยกว่า 10ปี ตามอายุความของกฎหมาย
ในฐานะของผู้ผลิตสินค้าต้องมีความตระหนักในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ การระบุถึงอันตรายจากการใช้สินค้าผิดวัตถุประสงค์มากขึ้น
โดยเฉพาะหากมีส่วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้ผลกระทบของกฎหมายนี้ คือ อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหารและยา
การมีความรู้ มาจากการเรียนรู้ และปฏิบัติ หากเรียนอย่างเดียวไม่ปฏิบัีติก็เรียกว่ารุ้ไม่จริง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451