ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com

หัวหน้าไม่เก่งทำอย่างไร
#1
Posted 24 November 2008 - 09:37 PM
สวัสดีครับ
กระผมเป็นน้องใหม่พึ่งจะเข้ามาทำงานที่บริษัทแห่งนึงได้ไม่กี่วัน....ก็มีปัญหาชวนให
้ขบคิด
เรื่องมีอยู่ว่า....ผมอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประกันคุณภาพ...หัวหน้าผมอยู่ในตำแ
หน่ง ผู้จัดการโรงงาน
ผมรู้สึกเสียใจตั้งแต่วันแรกๆที่เข้ามาทำงาน..คือไม่ได้รับการเทคแคร์จากคนรุ่นเก่า.
..และต้องใช้ความสามารถ
พิเศษส่วนตัวในการใช้ชีวิต....และความเสียใจที่ตามมาระรอกสองก็คือ หัวหน้าผมไม่มีวิสัยทัศน์ในการทำงาน
ชอบล้วงลูกไปเรื่อย....ปากบอกอยากได้ระบบ...แต่พอเอาเข้าจริงลองหลอกถามให้บอกว่ามาต
รฐานในการผลิต
คืออะไร..ยังตอบไม่ได้เลย...ชอบโทษเด็กหน้างานว่าไม่กระตือรือร้น..อยากให้หัวหน้างา
นทำงานแบบ Work hard
มาเช้ากลับดึก....ตัวผมชอบมองงานแบบ q,C,D,S,M,P,E แต่หัวหน้าผมออกลูกภูธร ให้ทำงานแบบเถ้าแก่
Competency ยังไม่รู้จักเล๊ย....ไอ้เราก็พยายามนำเสนองาน แต่กลับโดนขโมยซีนอยู่เรื่อย เอางานเราไปบอก
คนอื่นว่าเป็นความคิดของเค้า...แต่ทุกวันนี้เค้ายังไม่สามารถมอบหมายงานให้ผมได้เลย ไอ้ตัวผมมันก็ใจร้อนซะด้วยสิ
พยายามคิดในเชิงบวกนะ.....แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องระบาย.......^^
ผมยังมีกรณีศึกษาอีกเพียบ...อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเรื่องนี้ก็ reply กลับมากันได้นะ ผมชอบ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพราะถนัดในเรื่องการทำ Business Plan และ Strategy Road Map ใครสนใจ
มาแลกเปลี่ยนกันได้ครับ ผมไม่หวง เพราะผมชอบเห็นคนมีการพัฒนาที่ยิ่งๆขึ้นไป และผมก็เชื่อว่าแนวทางที่ผมมี
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกองค์กร.......
จุ๊กกะดุ๋ย
#2
Posted 24 November 2008 - 09:59 PM
ได้ข้อมูลถูกใจแล้ว อย่าลืม ขอบคุณ เจ้าของข้อมูลด้วยนะครับ
#3
Posted 25 November 2008 - 08:40 AM
กระผมเป็นน้องใหม่พึ่งจะเข้ามาทำงานที่บริษัทแห่งนึงได้ไม่กี่วัน....ก็มีปัญหาชวนให
้ขบคิด
เรื่องมีอยู่ว่า....ผมอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประกันคุณภาพ...หัวหน้าผมอยู่ในตำแ
หน่ง ผู้จัดการโรงงาน
ผมรู้สึกเสียใจตั้งแต่วันแรกๆที่เข้ามาทำงาน..คือไม่ได้รับการเทคแคร์จากคนรุ่นเก่า.
..และต้องใช้ความสามารถ
พิเศษส่วนตัวในการใช้ชีวิต....และความเสียใจที่ตามมาระรอกสองก็คือ หัวหน้าผมไม่มีวิสัยทัศน์ในการทำงาน
ชอบล้วงลูกไปเรื่อย....ปากบอกอยากได้ระบบ...แต่พอเอาเข้าจริงลองหลอกถามให้บอกว่ามาต
รฐานในการผลิต
คืออะไร..ยังตอบไม่ได้เลย...ชอบโทษเด็กหน้างานว่าไม่กระตือรือร้น..อยากให้หัวหน้างา
นทำงานแบบ Work hard
มาเช้ากลับดึก....ตัวผมชอบมองงานแบบ q,C,D,S,M,P,E แต่หัวหน้าผมออกลูกภูธร ให้ทำงานแบบเถ้าแก่
Competency ยังไม่รู้จักเล๊ย....ไอ้เราก็พยายามนำเสนองาน แต่กลับโดนขโมยซีนอยู่เรื่อย เอางานเราไปบอก
คนอื่นว่าเป็นความคิดของเค้า...แต่ทุกวันนี้เค้ายังไม่สามารถมอบหมายงานให้ผมได้เลย ไอ้ตัวผมมันก็ใจร้อนซะด้วยสิ
พยายามคิดในเชิงบวกนะ.....แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องระบาย.......^^
ผมยังมีกรณีศึกษาอีกเพียบ...อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเรื่องนี้ก็ reply กลับมากันได้นะ ผมชอบ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพราะถนัดในเรื่องการทำ Business Plan และ Strategy Road Map ใครสนใจ
มาแลกเปลี่ยนกันได้ครับ ผมไม่หวง เพราะผมชอบเห็นคนมีการพัฒนาที่ยิ่งๆขึ้นไป และผมก็เชื่อว่าแนวทางที่ผมมี
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกองค์กร.......
จุ๊กกะดุ๋ย
ดูไฟแรงจริงๆเลยนะคะ.....อิอิ ล้อเล่นค่า
ยินดีที่ได้รู้จัก และก็ยินดีที่มีสมาชิกใจดีมาให้ความรู้เพิ่มอีกคนหนึ่งด้วยค่ะ
#4
Posted 25 November 2008 - 09:22 AM
ทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังดีๆนะครับ ต่อให้พนักงานทุกคนชอบคุณ แต่ถ้าหัวหน้าไม่ปลื้ม คุณจบเลยนะ
#5
Posted 25 November 2008 - 10:09 AM
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดการปัญหานั้นอย่างไร
ปัญหามีไว้ให้แก้ค่ะ....ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
สู้..สู้..ค่ะ
#6
Posted 25 November 2008 - 11:26 AM
ก็ต้องออก เพราะดิฉันก็เคยเจออย่าง K. Toppy ('o') มาเหมือนกัน อย่างที่ K. maya พูดก็ถูกอีก ทำงานทุกที่มีปัญหาทั้งนั้น ที่ K. maya บอกว่าปัญหาทุกอย่างมีไว้ให้แก้ แต่ถ้ามีปัญหากับเพื่อนร่วมงานดิฉันว่าก็ยังพอคุยกันได้ แต่ถ้ามีปัญหากับระดับสูงกว่าเห็นทีจะคุยกันลำบากหน่อย ดิฉันจึงอยากจะขอคำแนะนำเหมือนกันถ้าปัญหาลักษณะเช่นนี้จะแก้ไขอย่างไรดี
#7
Posted 25 November 2008 - 01:00 PM
กระผมเป็นน้องใหม่พึ่งจะเข้ามาทำงานที่บริษัทแห่งนึงได้ไม่กี่วัน....ก็มีปัญหาชวนให
้ขบคิด
เรื่องมีอยู่ว่า....ผมอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประกันคุณภาพ...หัวหน้าผมอยู่ในตำแ
หน่ง ผู้จัดการโรงงาน
ผมรู้สึกเสียใจตั้งแต่วันแรกๆที่เข้ามาทำงาน..คือไม่ได้รับการเทคแคร์จากคนรุ่นเก่า.
..และต้องใช้ความสามารถ
พิเศษส่วนตัวในการใช้ชีวิต....และความเสียใจที่ตามมาระรอกสองก็คือ หัวหน้าผมไม่มีวิสัยทัศน์ในการทำงาน
ชอบล้วงลูกไปเรื่อย....ปากบอกอยากได้ระบบ...แต่พอเอาเข้าจริงลองหลอกถามให้บอกว่ามาต
รฐานในการผลิต
คืออะไร..ยังตอบไม่ได้เลย...ชอบโทษเด็กหน้างานว่าไม่กระตือรือร้น..อยากให้หัวหน้างา
นทำงานแบบ Work hard
มาเช้ากลับดึก....ตัวผมชอบมองงานแบบ q,C,D,S,M,P,E แต่หัวหน้าผมออกลูกภูธร ให้ทำงานแบบเถ้าแก่
Competency ยังไม่รู้จักเล๊ย....ไอ้เราก็พยายามนำเสนองาน แต่กลับโดนขโมยซีนอยู่เรื่อย เอางานเราไปบอก
คนอื่นว่าเป็นความคิดของเค้า...แต่ทุกวันนี้เค้ายังไม่สามารถมอบหมายงานให้ผมได้เลย ไอ้ตัวผมมันก็ใจร้อนซะด้วยสิ
พยายามคิดในเชิงบวกนะ.....แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องระบาย.......^^
ผมยังมีกรณีศึกษาอีกเพียบ...อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเรื่องนี้ก็ reply กลับมากันได้นะ ผมชอบ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพราะถนัดในเรื่องการทำ Business Plan และ Strategy Road Map ใครสนใจ
มาแลกเปลี่ยนกันได้ครับ ผมไม่หวง เพราะผมชอบเห็นคนมีการพัฒนาที่ยิ่งๆขึ้นไป และผมก็เชื่อว่าแนวทางที่ผมมี
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกองค์กร.......
จุ๊กกะดุ๋ย
(1) Smart boss + smart employee = profit
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องเก่ง = กำไร **
(2) Smart boss + dumb employee = production
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องโง่ = ผลผลิต **
(3) Dumb boss + smart employee = promotion
เจ้านายโง่ + ลูกน้องเก่ง = เลื่อนตำแหน่ง
ถ้าเป็นอย่างที่ว่ามา ถือโอกาสนี้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสครับ โดยอ้างอิงสมการที่(3)

#8
Posted 25 November 2008 - 03:00 PM
#9
Posted 25 November 2008 - 03:32 PM
ขออนุญาตลบคำตอบเดิมนะครับ เดี๋ยวมีคนเคือง อิอิ
เอาเป็นว่า คำตอบสมการนี้ละไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกันครับ
#10
Posted 25 November 2008 - 03:53 PM

สวัสดีครับ สมาชิกทุกท่าน
- พอดีตำแหน่งงานที่คุณ Khemarat ทำอยู่เป็นตำแหน่งงาน
เดียวกันที่ผมทำอยู่ขณะนี้ (ประสบการณ์ประมาณ 7 ปี)
โดยหัวหน้าของผมก็เป็น ผู้จัดการโรงงาน เหมือนกัน
คำตอบคงเป็นในด้าน ของผู้บริหาร นะครับ
- ข้อเสนอแนะมี ดังนี้
1. เปิดใจกว้าง
2. เข้าสังคม
3. นำเสนองาน
4. หลับตาข้างเดียว (ในบางครั้ง)
5. อย่าโมโห (ออกอาการ)
6. ..........................
- แล้วจะมาอธิบาย(รายละเอียด) ให้ในโอกาสถัดไป
- ขออภัยด้วย..นะครับ (ถ้าไม่ถูกใจ !)
" ʵ
#11
Posted 25 November 2008 - 04:38 PM
มีวิธีง่ายๆที่จะทำให้หัวหน้าฉลาดขึ้นหรือเก่งขึ้นมาแนะนำครับ นั่นก็คือ เราต้องพยายามทำตัวโง่ลง เก่งน้อยลง เพิ่มความงี่เง่าเขาไปด้วย
รับรองว่า จะเห็นหัวหน้าเก่งขึ้นแน่ๆครับ ล้อเล่นน่ะครับ
เอาเป็นว่า ทำใจครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นเหมือนคุณ Top (hahaha)
ระหว่างทำใจก็อย่าหยุดแค่นั้นครับ เราต้องพยายามพูดคุยหรือหาวิธีทำความรู้จักหัวหน้าให้มากขึ้น
เช่นหาโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน สังสรรค์เฮฮา กินลงกินเหล้ากะแกบ้าง เพื่อการเปิดใจครับ
เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าแกเปิดใจกับเราแล้ว เราค่อยนำเสนออะไรเข้าไป แต่มีข้อแนะนำนิดนึง ว่า
การนำเสนออาจจะปรับคำพูดนิดนึงก็ได้ เช่น แทนที่จะบอกว่า ผู้จัดการครับ ผมมีโครงการมเสนอครับ ก็อาจจะใช้คำว่า
ผู้จัดการครับ ผมมีโครงการนึงที่อยากจะทำครับ อยากจะนำมาใช้ที่นี่ แต่ผมติดปัญหานิดนึงครับ ผมไม่ค่อยแน่ใจ ผมขอรบกวนปรึกษาผู้จัดการหน่อยได้ไหมครับ
จากนั้นก็ว่าไป
ที่ให้ใช้คำพูดลักษณะนี้ เพราจะทำให้ท่านรู้สึกว่า ท่านมีความสำคัญ เรายังมาขอปรึกษาเลย จากนั้นท่านจะมีเวลาให้เรา ฟังเรา และสนับสนุนเราครับ
อีกอย่างครับ ระบบจะวางไว้ดีแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องใช้ "คน" ในการ Operate ดังนั้น การทำงานกับคนเราก็ต้องรู้จักคเหล่านั้น รู้จักนิสัยใจคอ
ความคิด สิ่งที่เขาชื่นชอบ จะได้คุยเรื่องที่เขาชอบก่อนที่จะชวนเขาคุยเรื่องงาน จะทำให้อะไรๆน่าจะ smooth e cream มากขึ้นได้น่ะ
วัฒนธรรมองค์กรเป็นอะไรที่อย่ามองข้ามน่ะครับ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไว้ก่อน มีโอกาสดีๆค่อยชวนเขามาเป็นพวกเรา ทำงานกับเรา
หรือพัฒนาไปพร้อมๆกับเรา การใจร้อนเกินไปอาจเป็นไฟเผาตัวเองได้
คนที่มาเป็นระดับู้จัดการโรงงานได้ ผมว่าเขาต้องมีดีน่ะ คงไม่ได้ตำแหน่งนี้มาจากการจับฉลากแน่ๆ ลองดูสิเขาเก่งตรงไหน
สู้ๆน่ะครับ
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#12
Posted 25 November 2008 - 04:53 PM
มีวิธีง่ายๆที่จะทำให้หัวหน้าฉลาดขึ้นหรือเก่งขึ้นมาแนะนำครับ นั่นก็คือ เราต้องพยายามทำตัวโง่ลง เก่งน้อยลง เพิ่มความงี่เง่าเขาไปด้วย
รับรองว่า จะเห็นหัวหน้าเก่งขึ้นแน่ๆครับ ล้อเล่นน่ะครับ
เอาเป็นว่า ทำใจครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นเหมือนคุณ Top (hahaha)
ระหว่างทำใจก็อย่าหยุดแค่นั้นครับ เราต้องพยายามพูดคุยหรือหาวิธีทำความรู้จักหัวหน้าให้มากขึ้น
เช่นหาโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน สังสรรค์เฮฮา กินลงกินเหล้ากะแกบ้าง เพื่อการเปิดใจครับ
เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าแกเปิดใจกับเราแล้ว เราค่อยนำเสนออะไรเข้าไป แต่มีข้อแนะนำนิดนึง ว่า
การนำเสนออาจจะปรับคำพูดนิดนึงก็ได้ เช่น แทนที่จะบอกว่า ผู้จัดการครับ ผมมีโครงการมเสนอครับ ก็อาจจะใช้คำว่า
ผู้จัดการครับ ผมมีโครงการนึงที่อยากจะทำครับ อยากจะนำมาใช้ที่นี่ แต่ผมติดปัญหานิดนึงครับ ผมไม่ค่อยแน่ใจ ผมขอรบกวนปรึกษาผู้จัดการหน่อยได้ไหมครับ
จากนั้นก็ว่าไป
ที่ให้ใช้คำพูดลักษณะนี้ เพราจะทำให้ท่านรู้สึกว่า ท่านมีความสำคัญ เรายังมาขอปรึกษาเลย จากนั้นท่านจะมีเวลาให้เรา ฟังเรา และสนับสนุนเราครับ
อีกอย่างครับ ระบบจะวางไว้ดีแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องใช้ "คน" ในการ Operate ดังนั้น การทำงานกับคนเราก็ต้องรู้จักคเหล่านั้น รู้จักนิสัยใจคอ
ความคิด สิ่งที่เขาชื่นชอบ จะได้คุยเรื่องที่เขาชอบก่อนที่จะชวนเขาคุยเรื่องงาน จะทำให้อะไรๆน่าจะ smooth e cream มากขึ้นได้น่ะ
วัฒนธรรมองค์กรเป็นอะไรที่อย่ามองข้ามน่ะครับ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไว้ก่อน มีโอกาสดีๆค่อยชวนเขามาเป็นพวกเรา ทำงานกับเรา
หรือพัฒนาไปพร้อมๆกับเรา การใจร้อนเกินไปอาจเป็นไฟเผาตัวเองได้
คนที่มาเป็นระดับู้จัดการโรงงานได้ ผมว่าเขาต้องมีดีน่ะ คงไม่ได้ตำแหน่งนี้มาจากการจับฉลากแน่ๆ ลองดูสิเขาเก่งตรงไหน
สู้ๆน่ะครับ
-*- มีแซว
ได้ข้อมูลถูกใจแล้ว อย่าลืม ขอบคุณ เจ้าของข้อมูลด้วยนะครับ
#13
Posted 25 November 2008 - 09:10 PM
ยินดีที่ได้รู้จัก และก็ยินดีที่มีสมาชิกใจดีมาให้ความรู้เพิ่มอีกคนหนึ่งด้วยค่ะ
ขอบคุณครับที่ให้โอกาสสมาชิกใหม่ในการแสดงออก และยินดีที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในภาคอุตสาหกรรม
ที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ.....จุ๊กกะดุ๋ย
#14
Posted 25 November 2008 - 09:11 PM
อยากผ่านโปรก่อนได้มั้ยครับ แล้วค่อยหาโอกาสลาออก....จุ๊กกะดุ๋ย
#15
Posted 25 November 2008 - 09:13 PM
มีวิธีง่ายๆที่จะทำให้หัวหน้าฉลาดขึ้นหรือเก่งขึ้นมาแนะนำครับ นั่นก็คือ เราต้องพยายามทำตัวโง่ลง เก่งน้อยลง เพิ่มความงี่เง่าเขาไปด้วย
รับรองว่า จะเห็นหัวหน้าเก่งขึ้นแน่ๆครับ ล้อเล่นน่ะครับ
เอาเป็นว่า ทำใจครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นเหมือนคุณ Top (hahaha)
ระหว่างทำใจก็อย่าหยุดแค่นั้นครับ เราต้องพยายามพูดคุยหรือหาวิธีทำความรู้จักหัวหน้าให้มากขึ้น
เช่นหาโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน สังสรรค์เฮฮา กินลงกินเหล้ากะแกบ้าง เพื่อการเปิดใจครับ
เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าแกเปิดใจกับเราแล้ว เราค่อยนำเสนออะไรเข้าไป แต่มีข้อแนะนำนิดนึง ว่า
การนำเสนออาจจะปรับคำพูดนิดนึงก็ได้ เช่น แทนที่จะบอกว่า ผู้จัดการครับ ผมมีโครงการมเสนอครับ ก็อาจจะใช้คำว่า
ผู้จัดการครับ ผมมีโครงการนึงที่อยากจะทำครับ อยากจะนำมาใช้ที่นี่ แต่ผมติดปัญหานิดนึงครับ ผมไม่ค่อยแน่ใจ ผมขอรบกวนปรึกษาผู้จัดการหน่อยได้ไหมครับ
จากนั้นก็ว่าไป
ที่ให้ใช้คำพูดลักษณะนี้ เพราจะทำให้ท่านรู้สึกว่า ท่านมีความสำคัญ เรายังมาขอปรึกษาเลย จากนั้นท่านจะมีเวลาให้เรา ฟังเรา และสนับสนุนเราครับ
อีกอย่างครับ ระบบจะวางไว้ดีแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องใช้ "คน" ในการ Operate ดังนั้น การทำงานกับคนเราก็ต้องรู้จักคเหล่านั้น รู้จักนิสัยใจคอ
ความคิด สิ่งที่เขาชื่นชอบ จะได้คุยเรื่องที่เขาชอบก่อนที่จะชวนเขาคุยเรื่องงาน จะทำให้อะไรๆน่าจะ smooth e cream มากขึ้นได้น่ะ
วัฒนธรรมองค์กรเป็นอะไรที่อย่ามองข้ามน่ะครับ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไว้ก่อน มีโอกาสดีๆค่อยชวนเขามาเป็นพวกเรา ทำงานกับเรา
หรือพัฒนาไปพร้อมๆกับเรา การใจร้อนเกินไปอาจเป็นไฟเผาตัวเองได้
คนที่มาเป็นระดับู้จัดการโรงงานได้ ผมว่าเขาต้องมีดีน่ะ คงไม่ได้ตำแหน่งนี้มาจากการจับฉลากแน่ๆ ลองดูสิเขาเก่งตรงไหน
สู้ๆน่ะครับ
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำที่ดีๆ
#16
Posted 26 November 2008 - 08:23 AM
มีวิธีง่ายๆที่จะทำให้หัวหน้าฉลาดขึ้นหรือเก่งขึ้นมาแนะนำครับ นั่นก็คือ เราต้องพยายามทำตัวโง่ลง เก่งน้อยลง เพิ่มความงี่เง่าเขาไปด้วย
รับรองว่า จะเห็นหัวหน้าเก่งขึ้นแน่ๆครับ ล้อเล่นน่ะครับ
เอาเป็นว่า ทำใจครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นเหมือนคุณ Top (hahaha)
ระหว่างทำใจก็อย่าหยุดแค่นั้นครับ เราต้องพยายามพูดคุยหรือหาวิธีทำความรู้จักหัวหน้าให้มากขึ้น
เช่นหาโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน สังสรรค์เฮฮา กินลงกินเหล้ากะแกบ้าง เพื่อการเปิดใจครับ
เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าแกเปิดใจกับเราแล้ว เราค่อยนำเสนออะไรเข้าไป แต่มีข้อแนะนำนิดนึง ว่า
การนำเสนออาจจะปรับคำพูดนิดนึงก็ได้ เช่น แทนที่จะบอกว่า ผู้จัดการครับ ผมมีโครงการมเสนอครับ ก็อาจจะใช้คำว่า
ผู้จัดการครับ ผมมีโครงการนึงที่อยากจะทำครับ อยากจะนำมาใช้ที่นี่ แต่ผมติดปัญหานิดนึงครับ ผมไม่ค่อยแน่ใจ ผมขอรบกวนปรึกษาผู้จัดการหน่อยได้ไหมครับ
จากนั้นก็ว่าไป
ที่ให้ใช้คำพูดลักษณะนี้ เพราจะทำให้ท่านรู้สึกว่า ท่านมีความสำคัญ เรายังมาขอปรึกษาเลย จากนั้นท่านจะมีเวลาให้เรา ฟังเรา และสนับสนุนเราครับ
อีกอย่างครับ ระบบจะวางไว้ดีแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องใช้ "คน" ในการ Operate ดังนั้น การทำงานกับคนเราก็ต้องรู้จักคเหล่านั้น รู้จักนิสัยใจคอ
ความคิด สิ่งที่เขาชื่นชอบ จะได้คุยเรื่องที่เขาชอบก่อนที่จะชวนเขาคุยเรื่องงาน จะทำให้อะไรๆน่าจะ smooth e cream มากขึ้นได้น่ะ
วัฒนธรรมองค์กรเป็นอะไรที่อย่ามองข้ามน่ะครับ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไว้ก่อน มีโอกาสดีๆค่อยชวนเขามาเป็นพวกเรา ทำงานกับเรา
หรือพัฒนาไปพร้อมๆกับเรา การใจร้อนเกินไปอาจเป็นไฟเผาตัวเองได้
คนที่มาเป็นระดับผู้จัดการโรงงานได้ ผมว่าเขาต้องมีดีน่ะ คงไม่ได้ตำแหน่งนี้มาจากการจับฉลากแน่ๆ ลองดูสิเขาเก่งตรงไหน
สู้ๆน่ะครับ
ผมเห็นเด้วยกับความคิดเห็นนี้มากเลยนะครับ
เพราะว่าเท่าที่ผ่านมาผมก็เคยเจอลักษณะแบบนี้เหมือนกัน เพราะว่าเราคือสิ่งแปลกปลอมในสายตาของเขา เขาก็เลยมีอาการต่อต้านหรือว่าทำเป็นไม่สนใจ คือง่ายเรายังไม่ได้เป็นพวกเขา และที่สำคัญคุณอยู่ฝ่ายรับประกันคุณภาพ ซึ่งมุมมองของผู้ที่คุมสายการผลิตอยู่มักจะมองว่าคุณเป็นคนที่ทำให้งานของเขาล่าช้า เบรคยอด และคอยจ้องจับผิด (เป็นอย่างนี้จริงๆนะเท่าที่เคยเจอ ) กว่าเขาจะมาถึงตำแหน่งนี้ได้นะผมเชื่อว่าเขาผ่านอะไรมามากแล้ว รู้แต่แกล้งไม่ทำ หรือประมาณว่ารู้แต่ไม่ทำ ใครจะทำไม
แล้วถ้านำเรื่องเข้าที่ประชุมกับผู้บริหารระดับสูง เขาก็ยังมีน้ำหนักในคำพูดมากกว่าคุณอยู่ดี เพราะว่าเขาต้องมีจุดดีที่มากพอที่เขาจะถูกPromote มาเป็นผู้จัดการโรงงานอยู่แล้ว
สิ่งที่ผมทำคือนอบน้อม สร้างความคุ้นเคย ให้เกียรติเขา อีกอย่างผมเป็นคนคุยเก่งด้วยก็เลยพอได้ อีกอย่างผมอายุน้อยกว่าเขาเป็น10ปี ก็เลยทำสิ่งเรานี้ได้ไม่ยาก สังเกตถึงความชอบส่วนตัวของเขาให้ดีเหอะ แล้วเอาเรื่องนั้นแกล้งไปคุย ไปถาม เดี๋ยวเหอะจะมีอาการถูกคอ คุยกันได้เรื่อยอ่ะ ถ้าชอบงานอดิเรกอย่างเดียวกันเหอะๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นคู่ซี้โดยไม่รู้ตัว
อีกอย่างพยามหาทางอะไรก็ได้ให้เขารู้สึกว่าเราได้ช่วยเหลือเขาในยามที่เขาต้องการควา
มช่วยเหลือในขณะที่ยังไม่มีใครยื่นมือเข้ามา ที่นี่แหละจะได้ใจยิ่งขึ้น
ที่นี่แหละ อยากได้อะไร ให้แกทำอะไร ขอแค่บอก แกก็ยังไม่ทำเดิม555 แต่แกจะสั่งลูกน้องกระจายเลย เพื่อนำสิ่งที่เราอยากได้มาให้ (ประเภทข้อมูลต่างๆ หรืองานอะไรก็ตาม)
สุดท้ายแม้แต่วันที่แกจะออก แกยังบอกเราเป็นลำดับต้นๆเลย (แถมบอกด้วยตัวเองไม่ต้องไปฟังคนอื่นเขาพูด)ตอนที่พิมพ์อยู่นี้ก็ยังคิดถึงพี่เขาอยู
่เลย
นี่ก็เป็นคำบอกเล่าจากสิ่งที่เคยประสบมา
และขอยืนยันว่าคำแนะนำของคุณnukool เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่คุณเป็นอยู่แน่นอน
Confirm

#17
Posted 26 November 2008 - 09:53 AM

- แนะนำเพิ่มเติม
- คุณ Khemarat ในฐานะตำแหน่ง "ผู้จัดการฝ่ายประกันคุณภาพ"
ถือว่าเป็นตำแหน่งของระดับผู้บริหารของโรงงาน
- ดังนั้นมุมมอง ต้องเป็นในแง่ของระดับผู้บริหารด้วย...ครับ
ฉะนั้น ควรหาประสบการณ์และเปิดใจกว้าง จะดีกว่าเนื่องจาก
ที่ทำงานที่อื่นๆแนวทางเกี่ยวการทำงานก็คงจะคล้ายๆกัน.... ครับ
- จบสำหรับคำแนะนำ .... โชคดีครับ!!!
" ʵ
#18
Posted 26 November 2008 - 12:57 PM
เครื่องคอม ฯ พังเพิ่งใช้งานได้ เลยมาช้าไปหน่อย พอดีเห็นกระทูนี้ เลยคิดถึงตัวเองมาก ๆ เลย
ประสบการณ์เดียวกัน หรืออาจจะหนักกว่านะนี่ ประมาณว่าระบบครัวเรือนไปเลย ไม่มีคำว่า Company เลย
ทำได้อย่างเดี่ยวเหมือนที่คุณ nukool แนะนำเลย ทำใจ เราอยู่ฝ่ายควบคุมคุณภาพของสินค้า ตอนนี้พยายาม
ทำตัวเป็นกลาง ระหว่างลูกค้า กับ บริษัท แต่ก็พยายามให้ลูกค้าพอใจมากที่สุด (งานหนักเอาเรื่อง แต่สู้ค่ะ)
แรก ๆ เคยคิดว่าเราคงแพ้ภัยตัวเอง ลาออกดีกว่า แต่มองกลับไปข้างหลัง เห็นน้อง ๆ QC ทำงานแล้วเลยหันมาสู้ต่อ
ที่ทำอยู่คือ
1. อะไรที่เราเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไป พยายามไม่ชน หากจำเป็นต้องชน ก็พยายามให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้าแทน อิอิ..
2. พยายามให้เขา Show power ที่เขามี ให้พนักงานเห็นเอง และลองทำตามดูว่าผลเป็นอย่างไร สุดท้ายพนักงานจะรู้ว่าควรทำอย่างไรด้วยตนเอง
3. พยายามรักษาสิ่งที่เราทำ เริ่มจากตัวเรา ใครเห็นไม่เห็นอีกเรื่อง ให้คิดว่า เราทำเราก็รู้ เราก็ทันเหตุการณ์ ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงข้างหน้า ประมาณว่า
เปลี่ยน วิกฤตเป็นโอกาส
4. สอนคนที่พร้อมจะเรียนรู้ และให้เกิดการบอกต่อกันภายใน วันนี้อาจยังไม่สำเร็จเต็ม 100 แต่วันหน้าคงเต็ม 100
อย่างไรก็สู้ ๆ ต่อไปนะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

#19
Posted 24 September 2009 - 09:01 AM
eak
#20
Posted 24 September 2009 - 09:26 AM
่าจะดีกว่านะครับ เพราะเราจะได้ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร ถอยซะก้าวเพื่อความก้าวหน้า โชคดีนะครับ

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users