3 replies to this topic

[chalala]

พอดีเคยทำแต่ไม่เคยsaveเก็บไว้เอง เลยจำได้ไม่หมด จึงลองหาข้อมูลหลาย ๆ ที่ ดูค่ะ

[Suppadej]

ในแต่ละบริษัทที่ผลิต Pkg มี Defect ไม่เหมือนกันหรอกครับ เพราะ Pkg ก็มีตั้งหลายประเภทเช่นกล่อง, ขวด, ฝา, ถุง, Shrink film ฯลฯ ซึ่งมีกระบวนการผลิต และ Know how ที่ไม่เหมือนกันครับ

จึงอยากแนะนำให้คุณรวบรวมข้อมูล Defect ของบริษัทคุณจากแหล่งต่างๆ ดังนี้ เช่น In-process, Customer complaint, Internal audit, External audit ฯลฯ คุณ
ว่าพบ Defect อะไรบ้าง แล้ว List เก็บไว้ อาจจะระบุเป็นความถี่ของจำนวนครั้งที่พบ Defect ด้วยก็ได้ เพื่อจะได้นำไปแก้ไข/ปรับปรุง กับ Defect ที่พบมาก มาก ก่อนครับ
และเพื่อเก็บไว้เป็น Referance ด้วย เพื่อเวลาที่มีคนมาถามว่า Defect ที่ตั้งนี้ ท่านได้แต่ใดมา จะได้ตอบเค้าได้ครับ

[chalala]

ในแต่ละบริษัทที่ผลิต Pkg มี Defect ไม่เหมือนกันหรอกครับ เพราะ Pkg ก็มีตั้งหลายประเภทเช่นกล่อง, ขวด, ฝา, ถุง, Shrink film ฯลฯ ซึ่งมีกระบวนการผลิต และ Know how ที่ไม่เหมือนกันครับ

จึงอยากแนะนำให้คุณรวบรวมข้อมูล Defect ของบริษัทคุณจากแหล่งต่างๆ ดังนี้ เช่น In-process, Customer complaint, Internal audit, External audit ฯลฯ คุณ
ว่าพบ Defect อะไรบ้าง แล้ว List เก็บไว้ อาจจะระบุเป็นความถี่ของจำนวนครั้งที่พบ Defect ด้วยก็ได้ เพื่อจะได้นำไปแก้ไข/ปรับปรุง กับ Defect ที่พบมาก มาก ก่อนครับ
และเพื่อเก็บไว้เป็น Referance ด้วย เพื่อเวลาที่มีคนมาถามว่า Defect ที่ตั้งนี้ ท่านได้แต่ใดมา จะได้ตอบเค้าได้ครับ

คือ Defect จะมีเป็น critical defect , major defect , minor defect ประมาณนี้ค่ะ และจะมีรายละเอียด เช่น ลักษณะdefectที่พบ ถ้ายอมรับไม่ได้จะเป็น critical defect และยอมรับให้มีได้กี่ชิ้น ในจำนวนทั้งหมดที่สุ่มมา
จำหัวข้อและ% การยอมรับไม่ได้น่ะค่ะ เพราะไม่เคยบันทึกส่วนตัวไว้

[Suppadej]

คือ Defect จะมีเป็น critical defect , major defect , minor defect ประมาณนี้ค่ะ และจะมีรายละเอียด เช่น ลักษณะdefectที่พบ ถ้ายอมรับไม่ได้จะเป็น critical defect และยอมรับให้มีได้กี่ชิ้น ในจำนวนทั้งหมดที่สุ่มมา
จำหัวข้อและ% การยอมรับไม่ได้น่ะค่ะ เพราะไม่เคยบันทึกส่วนตัวไว้

งั้นขอถามเพิ่มนะครับ
คำจำกัดความของ critical defect , major defect , minor defect บริษัทคุณกำหนดไว้ว่าอย่างไรบ้าง และบรรจุภัณฑ์ของคุณคืออะไร (เช่น Folding box, Carton, Bottle, Cap, Shrink film, Wrapper, Plastic bag ฯลฯ)

เพราะลักษณะ Defect ที่พบของแต่ละประเภทของ Pkg ก็ไม่เหมือนกัน
ผมยกตัวอย่างนะครับ
ถ้าเป็น Pkg ประเภทขวดและฝา ก็ต้องตรวจ
1. เรื่อง Function ของการใช้งาน เช่นเรื่องการ Leak test, การ Drop test, Fitness test ฯลฯ
2. เรื่อง Appearance เช่นเรื่องรูปแบบขวดและฝา, ความถูกต้องของการพิมพ์, การอ่านบาร์โค้ด, สีสรรตรงตาม Std. เป็นต้น

แต่ถ้าเป็น Pkg ประเภท Wrapper, Shrink ก็จะตรวจเรื่องของ Function การใช้งานที่ไม่เหมือนกับ Pkg ประเภท ขวดและฝา ครับ

ผมจึงบอกว่า Pkg แต่ละประเภทมี Defect ไม่เหมือนกัน และการกำหนด Criteria การยอมรับไม่เหมือนกัน เพราะจุดที่ซีเรียสของแต่ละ Defect ของ Pkg ต่างกันครับ

** การกำหนด %AQL คุณต้องปรึกษากับลูกค้าว่าจะยอมรับกันที่กี่ % และความสามารถในการผลิตของคุณยอมรับได้กี่ % เพราะในแต่ละโรงงานในแต่ละอุตสาหกรรม จะกำหนดไม่เท่ากัน เพราะนี่เป็น Cost ครับ และการกำหนดคำจำกัดความของ critical defect , major defect , minor defect คุณก็ต้องปรึกษา ตกลงกับลูกค้าด้วย เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันครับ

เพราะเกิดถ้าคุณกำหนดการยอมรับของเสียไว้ที่ %AQL ไม่เท่ากันกับลูกค้า เวลาคุณส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ลูกค้า แล้วเกิดลูกค้าเค้าสุ่มตรวจตอนรับของ โดยลูกค้าใช้ %AQL ที่ตรวจสอบเข้มกว่าคุณ หรือ ตีความหมายของคำจำกัดความของคำว่า critical defect , major defect , minor defect ที่ต่างจากคุณ ก็จะทำให้คุณส่งผลิตภัณฑ์ไปกี่ครั้งก็อาจโดนลูกค้า Reject คุณไม่ปวดหัวหรือทะเลาะกับลูกค้าแย่เลยหรือครับ

หมายเหตุ ยกตัวอย่างของคำจัดความและ%AQL (ขอเน้น อีกครั้ง นะครับว่า เป็นเพียงแค่การยกตัวอย่าง เพราะการนำไปปฏิบัติจริงจะขึ้นอยู่ความเหมาะสม+ความสามารถของแต่ละโรงงานและข้อตกลงก
ับลูกค้าด้วยครับ)

จำแนกประเภทของ Defects เป็น 3 ประเภทคือ

1 Critical Defects (0.1% AQL) ได้แก่ลักษณะที่ผิดปกติมากจนไม่สามารถใช้งานได้ หรือเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหากนำมาใช้งาน หรือผิดต่อข้อกำหนดทางกฎหมาย

2 Major Defects (1.5% AQL) ได้แก่ลักษณะผิดปกติที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน หรือทำให้เครื่องจักรบรรจุทำงานได้ช้ากว่าปกติ รวมถึงลักษณะปรากฏที่ต่างจาก Standard อย่างชัดเจน ซึ่งมีผลต่อความพอใจของผู้บริโภค

3 Minor Defects (4.0% AQL) ได้แก่ลักษณะผิดปกติซึ่งไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน เพียงแต่มีผลด้านความสวยงามเล็กน้อยเท่านั้น